7เรื่องของวิทยาศาสตร์
สารฆ่าความเจ็บปวด
น้องๆเคยสังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการแข่งขันยังสามารถลงแข่งขันได้จนจบหรือทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบยังคงทนต่อสู้ข้าศึกอยู่ได้ พวกเขาไม่เจ็บกันหรือ นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วครับว่าเมื่อมนุษย์เผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียด สมองจะปล่อยสารออกมายับยั้งความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ ทำให้มนุษย์ต่อสู้กับความเจ็บปวดได้
ไม่มีน้ำตา
รู้หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกครับ แม้จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒนาขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4-5 เดือน ตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะครับ
หิวเพราะกลิ่น
พอกลิ่นหอมของอาหารลอยมา พวกเราคงเคยรู้สึกหิวตามกลิ่นนั้นไปด้วยใช่ไหมล่ะ ก็กลิ่นอาหารเข้าไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของเราน่ะสิครับ ทำให้น้ำย่อยในปากและท้องทำงาน เราจึงรู้สึกหิวทั้งๆที่บางครั้งเราไม่ต้องการกินอีกแล้ว
กระเพาะแข็งแกร่ง
ในกระเพาะอาหารของเรามีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงมาก จนสามารถละลายสังกะสีได้ แต่กรดเหล่านี้ไม่สามารถละลายผนังกระเพาะของเราได้ เนื่องจากทุกนาทีเซลล์ผนังกระเพาะเก่า 5000 เซลล์ จะถูกเซลล์ใหม่แทนที่และเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ทั้งหมดทุกๆ 3 วัน
ท้องร้องจ๊อกๆ
พวกเราเคยได้ยินเสียงท้องร้องเมื่อรู้สึกหิวบ้างไหมครับ สาเหตุที่ท้องร้องก็เพราะสมองซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความรู้สึกหิวของเรา จะคอยจัดลำดับการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ถ้าในเลือดมีสารอาหารพอเพียง สมองก็จะสั่งให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง แต่เมื่อใดที่มีสารอาหารในเลือดน้อยระบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นเราจึงได้ยินเสียงท้องร้อง
ตกใจจนหน้าซีด
เมื่อเราตกใจหน้าจะซีด เนื่องจากเลือดบริเวณแก้มจะไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่ฉุกเฉิน คือให้สารอาหารและออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อส่วนอื่น เนื่องจากร่างกายไม่ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเผชิญความตกใจ เมื่อเลือดจากแก้มไหลออกไป หน้าเราจึงซีด
เขินอาย
เมื่อเรารู้สึกเชินอายหน้าเราก็จะแดง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและลำคอ เพราะขณะที่เราเขินอาย เซลล์ประสาทจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยสารเคมีที่พลังงานสูงชื่อว่า เปปไตด์ (peptide) ออกมา ทำให้เส้นเลือดที่แก้มและลำคอขยายตัว หน้าของเราจึงแดงมากกว่าปกติ
ที่มา: dek-d