วิทยาศาสตร์น่ารู้ ในชีวิตประจําวัน เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้สั้นๆ

วิทยาศาสตร์น่ารู้ ในชีวิตประจําวัน เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้สั้นๆ

5เรื่องวิทยาศาสตร์ การค้นพบที่สุดจะน่าสนใจ

5เรื่องวิทยาศาสตร์

1. นักวิทยาศาสตร์พัฒนาวัคซีน 2 ชนิดเพื่อเป็น ‘ผู้พิชิต’ Zika หลังได้ผลในหนูทดลอง!

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศภาวะฉุกเฉินจากโรคระบาดที่มียุงเป็นพาหะ Zika ซึ่งทำให้เด็กที่เกิดจากมารดาที่ติดเชื้อมีความพิการทางโครงสร้างสมอง และภัยร้ายนี้ลุกลามอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ หนูทดลองที่ถูกฉีดวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่ง หลังจากนั้น 4 สัปดาห์พวกมันถูกทำให้ติดเชื้อไวรัส Zika แต่เมื่อผ่านไปราว 8 สัปดาห์กลับไม่มีหนูตัวใดติดเชื้อเลย แสดงว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อด้วย

ขั้นตอนต่อไป ทีมวิจัยหวังผลทดลองในกลุ่มไพรเมทที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ (ลิง) เพื่อยันยืนว่า วัคซีนปลอดภัยพอที่จะทดลองในมนุษย์ อย่างเร็วที่สุดต้นปีหน้า แม้จะยังไม่การยืนยันว่าวัคซีนจะโชว์เจ๋งในกรณีของมนุษย์แค่ไหน

แต่ทีมวิจัยตั้งเป้าว่า ‘มันต้องสำเร็จ’ นับเป็นชัยชนะก้าวแรกของวิทยาการการแพทย์ ต่อไปนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกคงต้องเตรียมรับมือจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่อาจคุกคามชีวิตของพวกเราอีก

2. อาจารย์ม. นเรศวร และ ม. ราชภัฏเชียงรายค้นพบระบบดาวคู่ชนิดใหม่เป็นครั้งแรก

ผศ.ดร. อมรรัตน์ อังเวโรจน์วิทย์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และนางสาวศิรินภา อาจโยธา อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นำโดย Prof. Tom Marsh แห่ง University of Warwick และทีมนักวิจัย ค้นพบระบบดาวคู่ชนิดใหม่ Radio Pulsing White Dwarf Binary เป็นครั้งแรก คือระบบดาวคู่ AR Scorpii ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 380 ปีแสง

ระบบดาวคู่นี้ประกอบด้วยดาวแคระขาวและดาวเย็นมวลต่ำ ซึ่งสนามแม่เหล็กและการหมนุรอบตัวเองอย่างรวดเร็ว ทำให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากๆ อนุภาคพลังงานสูงแผดรังสีไปที่ดาวเย็นมวลต่ำ ทำให้ทั้งระบบสว่างวาบขึ้นสลับกับมืดลงทุก 1.97 นาที

3. ปริศนาการตาย ‘ป้าลูซี่’ กระจ่าง!

หลายคนคงมีโอกาสพบ ‘ป้าลูซี่’ หรือโฮมินิดสายพันธุ์ ออสตราโลพิเธคัส (Australopithecus) บรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกของพวกเราที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติในตอนยังเป็นเด็กๆ แต่การตายของป้ายังเป็นปริศนาอยู่เสมอมา แม้จะมีการขุดค้นฟอสซิลมาตั้งแต่ปี 1974 นู้น

ล่าสุด John Kappelman นักมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัย Taxas ปัดฝุ่นกระดูกป้าลูซี่อีกครั้งและได้ร่วมมือกับนักศัลยศาสตร์ออร์โทพีดิกส์อีก 9 คน เพื่อคลายปมปริศนาการตาย ด้วยเทคนิค X-Ray รังสีส่วนตัดโดยอาศัยคอมพิวเตอร์หรือ CT ทำให้พวกเขาเห็นมวลกระดูกและส่วนแตกหักได้อย่างละเอียด

ป้าลูซี่ตกจากความสูงอย่างน้อย 12 เมตร ด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระแทกพื้นดังแอ๊ก! ทำให้กระดูกไหล่และแขนส่วนบนอัดกระแทกจนกระดูกแตก แขนกางออกเพื่อพยายามยันตัวตามสัญชาตญาณ แต่กลับไม่สำเร็จ กระดูกหักและเกิดบาดแผลฉีกขาด ท้ายที่สุดหล่อนก็ตายใต้ต้นไม้นั้นเอง

แม้การพลาดพลั้งในอดีตทำให้นักมานุษยวิทยาต่อจิ๊กซอว์ชีวิตของออสตราโลพิเธคัส ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การอาศัยบนต้นไม้จะเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตเพื่อหลบหนีนักล่า ป้าลูซี่ของเราก็ยังเดินบนพื้นดินได้ดี และความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของสัจธรรมชีวิต

4. นาซ่าเจออะไรใน ‘ยูโรป้า’ แต่สปอยก่อนว่า ‘ไม่ใช่เอเลี่ยน’

นาซ่าแถลงข่าวการค้นพบล่าสุดบนดวงจันทร์ ‘ยูโรป้า’ อันหนาวเหน็บของดาวพฤหัสบดี จากการเก็บภาพด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล คราวนี้ผู้คนตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะ ยูโรป้า เป็นดาวที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตมากดวงหนึ่ง หรือพวกเราจะพบเจ้าเพื่อนตัวน้อยแล้ว?

นาซ่าบอกปัดทันทีว่า ‘ไม่ใช่อย่างนั้น’ เราไม่สามารถส่องสิ่งมีชีวิตด้วยกล้องฮับเบิลได้ในตอนนี้ แต่ข่าวนาซ่าก็ไม่ได้จืดชืดเสียทีเดียว

พวกเขาไขปริศนา พื้นมหาสมุทรใต้พิภพบนดาวยูโรป้า ซึ่งอาจเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิต

มีหลักฐานแน่ชัดว่า มีมหาสมุทรขนาดมหึมาถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกน้ำแข็ง และมีการไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทร ซึ่งแผ่นเปลือกน้ำแข็งดูดซึมสารเคมีจากเปลือกโลกลงสู่น้ำในมหาสมุทร เมื่อทำปฏิกิริยาเคมีกับบริเวณส่วนที่ร้อนและแก่นกลางดาวที่เป็นหิน อาจทำให้มันมีลักษณะเป็น ‘น้ำเค็ม’ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ

ซึ่งน้ำเค็มนี้เอง คือจุดกำเนิดสิ่งมีชีวิตมานักต่อนัก ดังนั้น สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในดาวยูโรป้า อาจจะไม่ได้เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว แต่อาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการที่ซับซ้อนแล้ว อย่างแมงกะพรุน หรือ ฟองน้ำทะเล

5. อีลอน มัสก์ เผยแผนช่วยเหลือมนุษยชาติ โดยการไปตั้งรกรากบนดาวอังคาร

อภิมหาเศรษฐี Tech พันล้าน ‘อีลอน มัสก์’ พยายามเชิญชวนพวกเราและอีก 1 ล้านคนไปตั้งรกรากใหม่บนดาวอังคาร หากพวกเราอยากจะรักษาเผ่าพันธุ์เอาไว้

บริษัท SpaceX ที่ก่อตั้งมา 14 ปี (และเกือบดับไปเหมือนกัน) กำลังพัฒนาจรวดระดับ Next Gen รุ่นล่าสุด เพื่อให้เราสามารถเดินทางไปยังดาวอังคาร เป็นแผนสำรอง หากมนุษยชาติบนโลกถึงทางตัน

ในงานแถลงข่าววันอังคารที่ผ่านมา เขาเผยภาพ ระบบขนส่งระหว่างดาว ‘Interplanetary Transport System’ (ITS) ซึ่งเริ่มทำการทดสอบเครื่องยนต์ Raptor ที่มีพละกำลังกว่าเทคโนโลยีเดิมที่ SpaceX เคยมี

โดยมัสก์โชว์ภาพเครื่องยนต์ Raptor จุดระเบิด ซึ่งเป้าหมายคือ ต้องให้ได้แรงส่ง 310 เมตริกตัน ภายในเวลา 382 วินาที ทำให้ Raptor มีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์ Merlin เดิมๆ ที่เคยใช้ถึง 3 เท่า และเขาเชื่อว่า มันจะพร้อมส่งจรวด Red Dragon พร้อมมนุษย์ไปเหยียบดาวอังคาร อย่างช้าที่สุดในปี 2018

นอกจากนั้นเขายังพูดถึงความท้าทายที่มนุษย์ตั้งอาณานิคมบนดาวแดง เพื่อที่จะเปลี่ยนมันเป็นบ้านหลังที่ 2 สำหรับการดำรงอยู่อาศัยอย่างถาวร โดยการออกแบบสถาปัตยกรรม โครงสร้างอุตสาหกรรม และรัฐบาลควรมีหน้าตาอย่างไร ซึ่งเชื้อเชิญเครือข่ายวิทยาศาสตร์มาช่วยกันขบคิด

ที่มา: thematter

Tags

แชร์:

บทความที่เกี่ยวข้อง