หากคุณคิดว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมสูงส่งในจักรวาลแห่งนี้ คุณอาจคิดผิด เพราะอาจมีสิ่งมีชีวิตจากดวงดาวอันไกลโพ้นในจักรวาลที่มีอารยธรรมสูงส่งกว่ามนุษย์เรา แต่ถ้าเหนือไปกว่านั้น จริง ๆ แล้วจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลของเรานี้ อาจเป็นแค่การทดลองของอารยธรรมที่สูงส่งเกินกว่าเราจะคาดถึง
1. จักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไร
มีทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดนั่นคือ “ทฤษฎีบิกแบง” (Big Bang Theory) ที่อธิบายว่าต้นกำเนิดของจักรวาลเริ่มต้นมาประมาณ 14,000 ล้านปีก่อน โดยก่อนหน้านั้นจักรวาลเป็นเพียงจุดที่เล็กยิ่งกว่าอะตอม แต่ด้วยเหตุปัจจัยบางอย่างทำให้มันเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วเพียงเศษเสี้ยววินาทีจนก่อเกิดเป็นกาแล็กซีนับล้าน ๆ และดวงดาวมากมาย และคาดว่าจักรวาลจะขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด
“ทุกสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จะเกิดขึ้น… เป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน” Alan Guth นักจักรวาลวิทยาจาก MIT กล่าว
2. ทฤษฎีอื่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการกำเนิดจักรวาล
Avi Loeb นักเขียนและอดีตหัวหน้าแผนกดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดกล่าวว่า จักรวาลสามารถก่อตัวขึ้นได้ในห้องทดลองโดย “อารยธรรมทางเทคโนโลยีชั้นสูง”
Loeb กล่าวว่า เนื่องจากจักรวาลของเรามีรูปทรงแบนลาบและมีพลังงานสุทธิเป็นศูนย์ อารยธรรมคลาสสูงอาจพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถ ‘จักรวาลทารก’ (Baby Universe) ขึ้นมาจากความว่างเปล่าผ่านอุโมงค์ควอนตัม
3. อารยธรรมคลาส A
หนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจก็คือระบบการจำแนกอารยธรรมของสิ่งมีชีวิต Loeb กล่าวว่า อารยธรรมที่มีเทคโนโลยีระดับต่ำเฉกเช่นมนุษย์ จะถูกจัดให้อยู่ใน “อารยธรรมคลาส C” ซึ่งเป็นอารยธรรมที่ต้องพึ่งพาดาวฤกษ์ของมัน และเราจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากดวงอาทิตย์ดับสิ้นไป
อยางไรก็ตาม มนุษย์เราอาจถูกระบุว่าเป็น “อารยธรรมคลาส D” ได้เช่นกัน เนื่องจากเรากำลังทำลายที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติบนโลกอย่างไม่ระวัดระวัง
แต่หากเทคโนโลยีของมนุษย์เราก้าวหน้าจนถึงจุดที่เป็นอิสระจากดวงอาทิตย์ได้ เราก็จะกลายเป็น “อารยธรรมคลาส B”
ส่วนระดับสูงสุดคือ “อารยธรรมคลาส A” ถือเป็นระดับที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมของจักรวาลให้เกิดการดำรงอยู่ขึ้นมาได้ หรือพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือการสร้างจักรวาลทารกขึ้นในห้องทดลองนั่นเอง
4. ความเป็นไปได้นอกจากนี้
หากเราลองคิดไปไกลกว่านั้น อารยธรรมคลาส A อาจสร้าง “จักรวาลทารก” เพื่อเฝ้ามองการเติบโตของมันเอาไว้หลายแห่ง หรือเราอาจมีอารยธรรมคลาส A อีกหลายอารยธรรม ซึ่งนั่นหมายความว่าอาจมีจักรวาลอีกเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงทฤษฎีหนึ่งที่มีความเป็นไปได้เท่านั้น บางคนอาจเชื่อในทฤษฎีนี้และคิดว่าอารยธรรมคลาส A ก็คือ “พระเจ้า” ที่เป็นผู้สร้างตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
ที่มา : futurism